A/B Testing คืออะไร

A/B Testing คือ

กระบวนการที่มีความสำคัญมากในปัจจุบันเพื่อให้ทำงานได้ถูกทางและใช้งบประมาณที่ได้มานั้นให้คุ้มค่าที่สุดโดยการทดสอบชิ้นงานต่างๆ ที่มีมากกว่า 2 แบบเพื่อทดสอบว่าแบบไหนที่เวิร์คมากที่สุด งานไหนที่เวิร์คที่สุดจะถูกใช้ต่อไป ส่วนงานที่เหลือจะหยุดใช้ทันที

องค์ประกอบของการทำ A/B Testing ที่ดีมีอะไรบ้าง

1. Goals: เราจะทดสอบเพื่อเป้าหมายอะไร อะไรคือสิ่งที่เราต้องการพัฒนาให้ดีขึ้นหลังจากการทำ A/B Testing แล้วเช่น ทดสอบเพื่อหาสีของปุ่มที่ทำให้คนคลิกสั่งซื้อมากที่สุด

2. Variable: รูปแบบต่างๆที่เราจะทำการเปรียบเทียบนั่นเองเช่น ปุ่มสีฟ้า ปุ่มสีเขียว ปุ่มสีแดง โดยที่รูปแบบหลักเราจะเรียกว่าเป็น Original ส่วนรูปแบบอื่นๆเราจะเรียกว่า Variation ในการทดสอบถ้ามีรูปแบบมากกว่า 2 แบบขึ้นไปเราจะเรียกว่า A/B/N Testing Model

3. Examples: คนที่เข้าเว็บไซต์ โดยการแบ่งให้เท่าๆกันในแต่ละ Variation เช่นแบ่งคนไปยังหน้าเพจที่มีปุ่มสีแดง 50% และแบ่งไปยังหน้าเพจที่มีปุ่มสีเขียว 50%

ตัวอย่างรุปแบบในการทำ A/B Testing

นอกจากจะนิยมนำไปใช้ใน Facebook Ads แล้ว A/B Testing สามารถเอาไปทดสอบได้อีกหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นทดสอบรูปภาพโฆษณา ทดสอบ Objective ของโฆษณา ทดสอบระหว่าง CPC กับ CPM ทดสอบ Keyword ใน Google Adwords ทดสอบ Audience List ใน GDN ทดสอบ Bid adjustment หรือทดสอบระหว่าง Landing Page ทั้ง 2 แบบ

A/B Testing มีประโยชน์อย่างไร

A/B Testing ไม่ได้ใช้กับแค่ Facebook Ad เท่านั้น แต่ยังใช้กับสื่ออื่นๆได้อีก ซึ่งเราสามารถปรับตัวแปรต่างๆให้ลึกและซับซ้อนมากขึ้นได้ เช่นเพิ่มตัวแปรของ Placement ว่าเราจะนำ Ad นี้ไปลงที่ไหนบ้าง ซึ่ง Ad1 สามารถทำงานได้ดีใน Placement1 แต่อาจจะไม่ดีใน Placement2 และ 3 ทำให้สามารถเลือกได้ว่าจะลง Ad นี้ที่ไหนบ้าง และไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ดี เราจะได้เรียนรู้ว่าแนวทางไหนไม่เวิร์คใน insight ของผู้บริโภคว่าชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไร จึงทำให้สามารถปรับปรุงการทำงานได้ดีขึ้นในอนาคตและทำงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น