Location Based Marketing คืออะไร?

Location แปลว่าสถานที่ แล้วการตลาดเกี่ยวอะไรกับสถานที่ละ ปัจจุบันทุกคนมีมือถือติดตัวกันตลอดเวลา เคยไหม? เมื่อเดินเข้าไปยังบางสถานที่ มือถือจะมีการเด้ง Notification เข้ามาว่าจุดที่เราอยู่มีบางแบรนด์นะที่มีโปรโมชั่นอยู่

เช่น พอเดินเข้าห้างปุ๊ป ได้รับ SMS จากเครือข่ายโทรศัพท์ว่า หากกดรหัสตัวเลขนี้ จะได้รับส่วนลดจากร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง 10% หรือ การได้ notification ผ่าน Application รีวิวว่า มี 10 ร้านดังร้านเด็ดที่อยู่ในระแวกพื้นที่ที่เราอยู่ พร้อมกับการบอกโปรโมชั่นของแต่ละร้าน

การตลาดในรูปแบบอิงสถานที่เหมาะกับใคร? การตลาดแบบนี้อาจเหมาะกับแบรนด์ที่มีชื่ออยู่แล้วในเบื้องต้นมากกว่าแบรนด์เกิดใหม่ เนื่องจาก Content ที่ถูกส่งออกไปมีข้อจำกัดในมุมของปริมาณ ดังนั้นหลายครั้งเราจะเห็นว่า Content ที่อยู่ข้างในจะพูดถึง Promotion เป็นหลัก ซึ่งลูกค้าจะให้ความสนใจ Promotion เมื่อรู้จักหรือเคยรับรู้แบรนด์นั้นๆมาก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตามร้านค้าหรือแบรนด์ใหม่ๆก็สามารถทำการตลาดรูปแบบนี้ได้ เพียงแต่ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสม เช่น แทนที่จะเป็นการส่ง SMS อาจควรเลือกเป็นการซื้อสื่อผ่าน Application ที่สามารถมีพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวได้เยอะกว่า เป็นต้น

การวัดผลของ Location Based Marketing ก็เหมือนกับการใช้เครื่องมือออนไลน์อื่นๆทั่วไป โดยวัดจาก Cost per Click และ Cost per Conversion เช่น แบรนด์ลงทุนการส่ง SMS หาคนจำนวน 1,000 คน โดย SMS ละ 3 บาท นับว่าเป็นต้นทุน 3,000 บาท หากมีคน Click เข้ามาดูรายละเอียดของร้านค้าที่แนบเป็น URL ไว้ 100 คน นั่นแสดงว่า Cost per Click อยู่ที่ 30 บาท / คลิก และถ้ามีคนเข้ามาใช้บริการที่ร้านจริง 10 คน Cost per Conversion จะอยู่ที่ 300 บาท / คน