การสร้างแบรนด์ สำคัญอย่างไร?

ในปัจจุบัน เรามีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมามากมายในท้องตลาด ทั้งผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ผลิตภัณฑ์มีภาพลักษณ์ (Brand Image) ที่ดูดี หรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถกดราคาลงไปต่ำในระดับที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจุดเด่นของผลิตภัณฑ์จะเป็นอะไร มีความชัดเจนแค่ไหน มันก็อาจจะไม่สำคัญเลยหากผู้บริโภคไม่สามารถจดจำผลิตภัณฑ์นั้นได้

การที่จะทำให้ใครสักคนจำเราได้ เราจำเป็นต้องสร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับตัวเอง ซึ่งนั่นก็หมายถึงการสร้างแบรนด์นั่นเอง และเมื่อเราสร้างแบรนด์ขึ้นมาได้แล้ว สิ่งที่จะปรากฏต่อสายตาของผู้บริโภคก็คือ Brand Image หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าตาและบุคลิกของคนคนหนึ่ง

วิธีการสร้างแบรนด์สามารถสรุปได้เป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

1. รู้เขา รู้เรา เพื่อสร้างข้อได้เปรียบ

ก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรสักอย่าง เราต้องศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน เจ้าของแบรนด์ควรศึกษาสินค้าที่เหมือนกันหรือสามารถทดแทนกันได้ สรุปจุดเด่นและจุดด้อยของคู่แข่ง และพยายามหาจุดยืนใหม่ให้กับตน โดยต้องเป็นจุดใหม่ที่ไม่ซ้ำกับใคร เพราะการแย่งที่ยืนกับผู้อื่น อาจจะทำให้เราแข่งขันได้ลำบาก แต่หากมีความจำเป็นต้องไปยืนที่เดียวกับเขาจริง ๆ เราจำเป็นต้องเตรียมหมัดเด็ดเอาไว้ให้สามารถสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

2. รู้จักลูกค้า ให้เหมือนที่รู้ใจแฟน

แม้เราจะเป็นคนสร้างของสิ่งนั้นขึ้นมา แต่จงจำไว้ให้ขึ้นใจว่าลูกค้าคือ “คนจ่ายตังค์” ดังนั้นการสร้างแบรนด์ควรเป็นไปตามความต้องการลูกค้า ทั้งเหตุผลในการเลือกซื้อสินค้า Brand Image แบบไหนที่ลูกค้ามองแล้วรู้สึกพอใจ หรือ เกณฑ์การตัดสินใจ (Decision Point) ที่จะทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าของแบรนด์เรา กล่าวคือ เราต้องดูความชอบของลูกค้า ห้ามเอาตัวเองเป็นที่ตั้งโดยเด็ดขาด และต้องละทิ้งอคติและอีโก้ในตัวเองไปให้หมด

3. สร้างตัวตน สร้างภาพลักษณ์

หลังจากที่เราหาจุดยืนที่แตกต่างจากคู่แข่งได้ และรู้แล้วว่าลูกค้าของเราชอบสินค้าแบบไหน ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องกำหนดตัวตนว่าเราจะเป็นใคร เป็นแบบไหน มีลักษณะอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่เรากำหนดขึ้นก็คือ Brand DNA นั่นเอง หากเทียบง่าย ๆ ให้เห็นภาพ มันก็คือความรู้สึกเมื่อเรามองคนคนหนึ่ง เช่น ผู้หญิงคนนี้สวยมาก แต่เป็นความสวยแบบ Working Woman คือดูสวย ฉลาด มีเสน่ห์ และทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เปรียบได้กับ Brand DNA ที่สะท้อนออกมาให้เราเห็นเป็น Brand Image ที่ชัดเจน

4. แต่งหน้า ทาปาก และพาแบรนด์ออกสู่สังคม

เมื่อการสร้างแบรนด์เสร็จสิ้นแล้ว ถ้าเราเก็บไว้เฉย ๆ ก็ไม่มีทางที่ใครจะรับรู้ถึงตัวตนเราได้ เราต้องนำแบรนด์ไปพบปะกับผู้คนซึ่งก็คือกลุ่มลูกค้าของเรา โดยที่การสื่อสารที่ออกไปจะต้องสอดคล้องกับ Brand DNA ของเราด้วย เช่น ถ้าเราวางแบรนด์ว่าต้องสดใส เข้าถึงคนง่าย แต่การสื่อสารกลับใช้สีดำ สีขาว สีเทา นั่นแปลว่าเรายังสื่อสารไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เราวางไว้ ทั้งนี้ การใช้ภาษาก็มีความสำคัญ หากเราวางแบรนด์ว่าต้องการให้รู้สึกเป็นมิตรเข้าถึงง่าย แต่กลับใช้ภาษาทางการ การสื่อสารที่ได้ย่อมขัดแย้งกับสิ่งที่เราต้องการจะเป็น ทุกอย่างที่แสดงออกไปคือ Brand Image หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คนทั่วไปมองเห็นและรับรู้

การสร้างแบรนด์นั้นจะพูดว่าง่ายก็ง่าย เพียงแค่ทำตามขั้นตอนเราก็ได้แบรนด์ออกมาแล้ว แต่ การสร้างแบรนด์นั้นสำคัญที่ผลลัพธ์ จะสร้างทั้งทีก็ควรสร้างให้ปัง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ และข้อสำคัญที่สุดที่ควรจะคือ แม้จะวางแบรนด์มาดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถสะท้อนภาพ Brand Image ก็ถือว่าไม่สำเร็จอยู่ดี

อ่านต่อได้ที่ : http://www.flyingcomma.com/branding-service