4 เคล็ดลับธุรกิจ สำหรับขายของใน Instagram

ในโลก Social Media ในปัจจุบันโดยเฉพาะฝั่งโลกตะวันออก การเติบโตของการขายของใน Social Media เติบโตอย่างมากและต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามถ้าเทียบเป็นสัดส่วนระหว่าง Offline / Online ในประเทศไทยนั้นก็ยังมีโอกาสอีกมากมาย เพราะ สัดส่วนการซื้อขายผ่าน Online นั้นก็ยังไม่ถึง 5% ของการซื้อขายทั้งหมด แสดงว่าโอกาสยังมีเสมอสำหรับทุกท่านครับ โดยประเภทสินค้าที่ขายบนอินสตาแกรมนั้น 67 เปอร์เซ็นต์เป็นBrandname 30 เปอร์เซ็นต์เป็น Beauty/Cosmetic อีก 23 เปอร์เซ็นต์เป็น Food&Beverage และ 12 เปอร์เซ็นต์เป็น Finance ซึ่งในวันนี้ก็มี 4 เคล็ดลับสำหรับการทำการตลาดผ่าน Instagram มาฝากกันนะครับ

1. Image

ถูกต้องและครับง่ายๆเลยครับ รูปที่ลงใน Instagram นั้นต้องสวยครับ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของตัว Application เองที่เป็นเหมือนอัลบั้มส่วนตัวของเรา ดังนั้น ภาพถ่ายเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจผ่านเครื่องมือนี้ครับ ซึ่งเคล็ดลับคือ “เราควรเพิ่มอารมณ์ของภาพเข้าไปด้วย” ไม่ใช่คิดแต่เพียงภาพสวยอย่างเดียว เนื่องจากผมได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับช่างภาพของนิตยสาร Image ผมเลยสงสัยว่าจริงแล้ว ช่างภาพที่เก่งทำไมภาพที่ออกมาจึงดูสวยจัง เลยไปสอบถามเคล็ดลับมาจากเค้าครับ ซึ่งได้ความว่า ไม่ใช่เพราะอุปกรณ์หรือแสงแต่อย่างใดครับ เคล็ดลับอยู่ที่การสื่อสารระหว่างแบบและช่างกล้องและการสื่ออารมณ์ของภาพออกมาครับ ดังนั้น เคล็ดลับนี้แนะนำเลยนะครับ ยกตัวอย่างนะครับ เราอาจจะไม่ได้ถ่ายสินค้าแบบภาพเต็มตั้งแต่แรก อาจมีการถ่ายให้น่าสนใจว่ามันคืออะไรนะ ดึงอารมณ์ร่วมของคนดูให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น หรืออาจจะมีการสลับโพสภาพในเชิงอารมณ์อื่นด้วยไม่ได้สนใจแต่ฮารด์เซลล์เพียงอย่างเดียว และอาจโพสภาพที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งครั้งต่อวัน

2. Sharp

ข้อความที่โพสต้องเข้าใจง่าย ไม่เยอะจนเกิดไป ร่วมไปถึงห้ามลืมช่องทางการติดต่ออย่างเด็ดขาด และอย่าลืมใส่แฮชแท็กประกอบที่เกี่ยวข้องกับสินค้าในโพสต์ ยิ่งแฮชแท็กมากการเข้าถึงยิ่งมีโอกาสมากขึ้นครับ แต่จากการทำการวิเคราะห์โดยรวมแล้ว แฮชแท็ก ที่เหมาะสมที่สุดจะประมาน 4 ครับ ไม่มากเกินไปจนน่ารำคาญและไม่น้อยจนเกินไปการเข้าถึงน้อยเกินไปครับ

3. Speed

การตอบข้อความ Feedback ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว เนื่องด้วยการสั่งซื้อออนไลน์นั้นเข้าถึงง่ายและรวดเร็วดังนั้น Drop Rate ก็มีสูงเช่นกัน เพียงแค่เราไม่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้รวดเร็วแล้ว เค้าอาจจะไปซื้อกับร้านอื่นก้ได้ครับ

4. CRM

หรือการดูแลลูกค้า การที่จัดโปรโมชั่นดูแลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูแลลูกค้าให้มีความผูกพันกับเรา แต่ไม่เยอะจนเกินไปจนทำให้ลูกค้าติดเป็นนิสัย จะสามารถช่วยสร้างความแตกต่างให้กับร้านของเราได้อย่างดีครับ

ที่มารูปประกอบ : s3.amazonaws.com

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/proudputt

โดย ภัทร เถื่อนศิริ