เลข 9 !!

เป็นกันมั้ยครับ ? เวลาเจอสินค้าประเภทต่างๆในราคา 99 บาท จะเกิดความคิดขึ้นทันทีว่า เฮ้ย !! มันก็ 100 บาท นี่หว่า !! ผมก็ลองนั่งนึกไป นึกมาว่ามันเป็นแบบนี้เพราะอะไร จะว่าเป็นเรื่องของความเชื่อให้ขายดิบขายดี ก็ไม่ใช่ หรือจะเป็นการทำให้ดูเหมือนเป็นจำนวนที่ทำให้ดูไม่แพงเช่น จาก 100 บาท กลายเป็น 99 บาท เป็นหลักสิบ กับหลักร้อย ผมว่ามันก็ยังดูออกอยู่ดี คือ เท่าที่ลองถามๆหลายคนทั้งฝ่ายคนขาย และคนซื้อ ก็พบว่าเป็นเหมือนเรื่องที่ทำตามๆกันมามากกว่า อารมณ์ว่าถ้าไม่ได้ทำ ก็เกิดอาการแปลกๆว่าไม่ได้ทำ ประมาณนั้น

ผมเลยลองคิดดูว่า ตั้งราคาแบบไหนดีล่ะ ที่ทั้ง เกิดช่องว่างมากพอในการปรับเปลี่ยนราคา และยังคงเป็นระดับของตัวเลขที่ไม่ได้สูงมาก จนรู้สึกว่าแพง (แต่ตัดออก 1 บาท ผมไม่เอานะ 555) จึงได้มุมมองมานำเสนอท่านผู้อ่านว่า ให้ใช้ค่ากึ่งกลางของระดับช่วงราคาเป็นพื้นฐานในการคิดครับ คือ การใช้เลข 5 ผสมร่วมกับเลขศูนย์ครับ

ยกตัวอย่างเช่น สินค้าราคา 15,000 บาทถ้าเอาแบบสูตรดั้งเดิม เราก็จะตั้งเป็น 14,999 บาทใช่มั้ยครับ เพื่อให้รู้สึกว่ายังไม่ใช่สินค้าราคา 15,000 บาท จากตรงนี้นะครับ สามารถมองออกได้ 2 แบบครับ ถ้าระดับของ Margin ของเรามากเพียงพอนะครับ ผมจะลองตั้งเป็น 14,850 บาท ไปเลยครับ เพราะการตั้งช่วงราคาแบบนี้ ทำให้เกิดความห่างที่เป็นระยะมากพอ (ประมาณ 2 – 3 % จากราคาขายรวม) ซึ่งจะบรรลุวัตถุประสงค์ ที่ต้องการให้เกิดความรู้สึกว่าไม่เกิณ 15,000 บาท ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะถ้าเป็น ส่วนลด 1 บาท อาจจะเกิดความรู้สึกว่า ก็ 15,000 บาทน่ะแหละ แต่เค้าตั้งเลข 4 นำหน้าเป็นพิธีเท่านั้น

ทั้งนี้ หากเรื่องการปรับราคาลดลงตามตัวอย่างดังกล่าว ไม่สามารถกระทำได้ จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ผมขอแนะนำให้ตั้งราคาเป็น 15,105 บาทครับ เพราะ ถ้าเอาตามหลักของคนที่คิดคำนวณแล้ว จริงอยู่ที่อาจจะมีบางส่วนมองว่าเป็นส่วนต่างที่มากกว่า 15,000 บาท แต่หากลองมองในมุมกลับกันแล้ว 14,900 หรือ 15,105 บาท แทบไม่เกิดความแตกต่างระหว่างกัน เพราะก็จะเกิดการแปรความหมายเป็น 15,000 บาทได้ทั้ง 2 รูปแบบของช่วงราคา นอกจากนี้ การตั้งราคา 15,105 บาท ยังส่งผลต่อจิตวิทยาในหลายๆประเด็น ทั้งในแง่ของความรู้สึกของผู้ซื้อที่ไม่รู้สึกว่าโดนหลอกในส่วนต่างของราคา 1 บาท และความรู้สึกเชิงบวกว่าเกินจาก 15,000 บาทมานิดเดียวเอง แตกต่างจากรากความรู้สึกเดิมคือ อีก 1 บาทก็ 15,000 บาทแล้ว

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ เรื่องนี้ก็เป็นเหมือนรสชาติอาหาร ที่ต่างคนก็ต่างมุมมอง รับรู้รสชาติของอาหาร หรือความรู้สึกที่มีต่อราคากันคนละแบบ แต่สิ่งที่ผมอยากนำเสนอในหัวข้อนี้ก็คือ เรื่องการคิดในมุมใหม่ๆ สำหรับในทุกๆรายละเอียด จะทำให้ให้เราได้กลยุทธุ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน เจ๋งดีใช่มั้ยล่ะครับ ?

ที่มารูปประกอบ : www.wikihow.com

โดย สกนธ์พัฒน์ อดุลยธรรม