เทรนด์ใหม่ของสินค้าอุปโภค และบริโภค

เป็นเรื่องธรรมดา ที่สินค้าอุปโภค และบริโภค ในตอนนี้เวลาทำเครื่องมือสื่อสารทางการตลาด หรือกำหนดกลยุทธุ์เชิงผลิตภัณฑ์ออกมา จะต้องเน้นให้คุ้มคุณภาพที่มีต่อราคา สามารถทำโน่น นี่ นั่นได้เต็มไปหมด อาทิ GPS ติดรถยนต์ที่ปกติไว้ใช้นำทาง หรือตรวจสอบเส้นทางการเดินทางต่างๆ ก็มีระบบเสริม สามารถดูภาพยนต์ไปด้วยในตัว (เพื่ออะไรกันคร้าบ มันอันตรายนะครับ ขณะขับรถน่ะครับ !!) จึงสรุปว่าเทรนด์ในปัจจุบันนี้ คือ ของสิ่งเดิม แต่สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ตอบสนองทั้ง Functional benefit และ Emotional benefit ได้นั่นเอง

แล้วจะต้องมากขนาดไหนถึงจะเรียกว่าดี ตามหลักการง่ายๆทั่วไป หลายๆแบรนด์อาจจะคิดว่ามากที่สุดเท่าที่พอจะทำได้ ในระดับต้นทุนที่เหมาะสม แต่ในครั้งนี้ผมมีตัวตัดสินใจแบบพิเศษเรื่องนึงครับ ที่สามารถช่วยทุกๆท่านตัดสินใจกัน นั่นก็คือ การสร้าง Function เสริมให้แก่สินค้า ด้วยคุณสมบัติเสริม ที่เชื่อมต่อกับความสัมพันธ์ทางสังคมของผู้ซื้อได้ หรือพูดง่ายๆ คุณสมบัติเสริมที่เพิ่มขึ้นมานั้น เหมาะสมเพียงพอให้ผู้ใช้รู้สึกทึ่ง หรือพอใจเพียงพอแก่การเล่าประสบการณ์ให้แก่เพื่อน หรือผู้อื่นฟังทั้งในเชิง Online และ Offline ตลอดจน การออกแบบกลยุทธุ์ เพื่อให้เกิดการใช้งานร่วมกับสังคมรอบตัวของผู้ใช้ทั้งในเชิงความเป็นจริง และโลกเสมือนจริงนั่นเอง อาทิ GPS เมื่อสักครู่ถึงแม้จะมี Function ดูหนังเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ไม่แน่ว่าลูกค้าถูกใจมากเพียงพอที่จะส่งต่อเรื่องราวไปแก่กลุ่มเพื่อนมั้ย แต่เปลี่ยนใหม่ สมมุติมี Function เสริมที่สนับสนุนการขับขี่ของผู้ใช้ที่เป็นคุณแม่ลูกอ่อน (ยกตัวอย่างว่ามี และต้นทุนไม่สูงอะนะครับ) สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ ผู้ใช้ที่เป็นคุณแม่ ก็จะแบ่งปันเรื่องราวของ GPS ตัวนี้แก่ กลุ่มสมาคมคุณแม่ที่อยู่ใกล้เคียง โดยอัตโนมัติ แบบที่เรียกว่า แชร์เรื่องราวของ Function เสริมมากกว่า Function หลักด้วยซ้ำ ลองดูนะครับว่า Product ของคุณ มี Function เสริม ที่สามารถสร้างเรื่องราว ให้ลูกค้าของคุณไปเล่าบอกต่อได้หรือไม่

โดย สกนธ์พัฒน์ อดุลยธรรม